สติกเกอร์ลาเบลเป็นสิ่งที่เราเห็นกันจนชินตา แต่รู้หรือไม่ว่าสิ่งเล็ก ๆ นี้มีความสำคัญต่อสินค้าและแบรนด์ของคุณมากแค่ไหน? ลองนึกภาพสินค้าที่ไม่มีฉลาก คุณจะรู้ได้อย่างไรว่าข้างในมีอะไร ใช้ยังไง หรือแม้แต่วันหมดอายุ? บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับ label sticker ให้มากขึ้น พร้อมแนะนำประเภท เทคนิคการเลือกใช้ และการนำไปใช้ให้เหมาะกับธุรกิจของคุณ!
สติกเกอร์ลาเบล คืออะไร?

Sticker label หรือสติกเกอร์ลาเบล คือ สติกเกอร์ที่เป็นป้ายหรือฉลากสินค้าที่มีการพิมพ์ข้อความหรือกราฟิกต่าง ๆ ไว้ และอีกด้านจะเป็นการเคลือบกาวสำหรับติดลงบนสินค้าหรือบรรจุภัณฑ์ต่าง ๆ โดยทำมาจากวัสดุหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นกระดาษ ฟิล์มพลาสติก (PVC, PET) หรือวัสดุกันน้ำ หรือทนความร้อน
Label sticker ทำหน้าที่ไม่เพียงแค่บอกชื่อสินค้า แต่ยังเป็นสื่อกลางในการให้ข้อมูลสำคัญต่าง ๆ เช่น:
- ชื่อผลิตภัณฑ์
- ส่วนผสม/วัตถุดิบ
- วิธีการใช้งาน
- วันผลิตและวันหมดอายุ
- ข้อควรระวัง
- ข้อมูลผู้ผลิตและผู้จัดจำหน่าย
นอกจากนี้ สติกเกอร์ Label ยังเป็นเครื่องมือทางการตลาดที่ช่วยสร้างการจดจำแบรนด์ ดึงดูดความสนใจ และเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ประเภทของสติกเกอร์ลาเบล มีอะไรบ้าง?
Sticker label มีหลายประเภทให้เลือกใช้งานอย่างมากในปัจจุบัน ซึ่งแต่ละประเภทก็มีคุณสมบัติและความเหมาะสมในการใช้งานที่แตกต่างกันออกไป มาดูกันว่ามีอะไรบ้าง:
1. สติกเกอร์กระดาษ (Paper Sticker)
สติกเกอร์กระดาษเป็น label sticker ที่เป็นกระดาษ เหมาะกับการใช้งานสำหรับสินค้าทั่วไป ไม่ว่าจะเป็น ขนมขบเคี้ยว หรือของใช้ในอุณหภูมิปกติ ซึ่งเป็นประเภทของสติกเกอร์ที่มีราคาถูกและสามารถพิมพ์ได้ง่าย แต่จะไม่ทนน้ำและความชื้นมากเท่าไหร่นัก
ข้อดี:
- ต้นทุนต่ำ
- พิมพ์สีสันสวยงาม
- เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ย่อยสลายง่าย
ข้อเสีย:
- ไม่ทนต่อความชื้น
- ฉีกขาดง่าย
- อายุการใช้งานค่อนข้างสั้น
2. สติกเกอร์ใส (Transparent Sticker)
สติกเกอร์ใสเป็น sticker label ที่เหมาะกับการนำไปใช้ติดสินค้าพรีเมียม หรือสินค้าประเภทที่ต้องการโชว์พื้นผิว โดยจะมีลักษณะเป็นสติกเกอร์ที่มีความโปร่งใส จึงสามารถเห็นตัวสินค้าได้ชัดเจนและมีความสวยงาม
เหมาะสำหรับ:
- สินค้าพรีเมียม
- บรรจุภัณฑ์ที่ต้องการโชว์เนื้อสินค้าหรือตัวผลิตภัณฑ์
- สินค้าที่ต้องการความสวยงามและดูมีมูลค่า
3. สติกเกอร์พีวีซี (PVC Sticker)
สติกเกอร์พีวีซีเป็น label sticker ที่ทำจากวัสดุพีวีซี เหมาะกับการใช้งานกับสินค้าที่ต้องเจอความชื้นเป็นประจำ ไม่ว่าจะเป็น ขวดแชมพู ขวดน้ำ หรือเครื่องสำอางต่าง ๆ เนื่องจากมีคุณสมบัติที่ทนน้ำ ทนความชื้น และมีความยืดหยุ่น
สติกเกอร์ PVC มีคุณสมบัติเด่นตรงที่เนื้อสติกเกอร์เหนียว ฉีกขาดยาก กาวของสติกเกอร์ยึดเกาะพื้นผิวสินค้าได้ดี ติดแนบแน่นทนทานเป็นพิเศษและสามารถทนความร้อนได้ 40-60 องศาเซลเซียส เหมาะสำหรับสินค้าที่ต้องโดนทั้งความร้อน, ความชื้นและสัมผัสน้ำโดยเฉพาะ
ข้อเสีย: ถ้ารายละเอียดตัวหนังสือบนสติกเกอร์ลาเบลมีขนาดเล็กจนเกินไป อาจจะส่งผลทำให้ความคมชัดของตัวหนังสือลดน้อยลงได้
4. สติกเกอร์โพลีเอสเตอร์ (PET Sticker)
สติกเกอร์โพลีเอสเตอร์เป็น sticker label ที่มีความทนทานสูง ซึ่งจะสามารถทนความร้อน ทนต่อสารเคมี และไม่ฉีกขาดง่าย ซึ่งจะเหมาะกับการใช้งานสำหรับสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ สินค้าอุตสาหกรรมประเภทต่างๆ รวมถึงสินค้าที่ต้องการความทนทานสูง
5. สติกเกอร์พีพี (PP Sticker)
สติกเกอร์พีพีเป็น brand labels ที่ได้แบ่งแยกย่อยออกมามีหลายแบบ มีทั้งแบบขาวขุ่น, แบบใสและแบบด้าน ผู้ประกอบการสามารถเลือกแบบได้ตามต้องการ เพื่อให้บรรจุภัณฑ์สินค้าดูเข้ากันกับสติกเกอร์ติดสินค้าให้มากที่สุด รูปแบบของสติกเกอร์ชนิดนี้สามารถกันน้ำได้ 100% เหมาะสำหรับสินค้าที่จำเป็นต้องสัมผัสน้ำโดยตรง
ที่สำคัญสติกเกอร์พีพียังช่วยทำให้งานพิมพ์ที่ออกมามีความดูดี คุณภาพสีที่พิมพ์ลงไปในสติกเกอร์มีประสิทธิภาพค่อนข้างสูง ให้ความละเอียดสูงถึง 2400×4800 dpi งานพิมพ์ลงบนเนื้อสติกเกอร์พีพีจึงมีความคมชัดมากเป็นพิเศษ อีกทั้งเนื้อสติกเกอร์ยังเรียบเนียน แนบไปกับพื้นผิวของสินค้าทำให้ลูกค้าสามารถสัมผัสได้ถึงพรีเมียมของ label sticker ได้มากกว่า
6. สติกเกอร์ฟอยล์ (Foil Sticker)
สติกเกอร์ฟอยล์เป็น sticker label ที่มีความเงางาม ดูหรูหรามากขึ้น จึงเหมาะสำหรับการใช้งานกับสินค้าแบรนด์พรีเมียม ทั้งสำหรับเครื่องสำอางหรืองานตกแต่งต่างๆ เรียกได้ว่าเป็นการเพิ่มมูลค่าและความโดดเด่นให้กับสินค้านั่นเอง
7. สติกเกอร์บาร์โค้ด (Barcode Sticker)
สติกเกอร์บาร์โค้ด คือ วัสดุสิ้นเปลืองอย่างหนึ่งที่ใช้งานร่วมกันกับเครื่องพิมพ์บาร์โค้ด (Barcode Printer) เพื่อนำไปติดบนบรรจุภัณฑ์ของสินค้าไม่ว่าจะเป็น ซอง กล่อง หรือขวด เพื่อบ่งบอกรายละเอียดของสินค้านั้น ๆ
ประเภทของสติกเกอร์บาร์โค้ดที่นิยมใช้:
- สติกเกอร์บาร์โค้ดกึ่งมันกึ่งด้าน: ใช้ในงานทั่วไป เหมาะกับหมึกพิมพ์ริบบอนเนื้อ wax
- สติกเกอร์บาร์โค้ด Foil: เนื้อฟอยด์หนาสีเทา เหมาะกับงานที่ทนความร้อน เปียกชื้นได้
- Direct Thermal: สติกเกอร์บาร์โค้ดแบบความร้อน ไม่ต้องใช้หมึกริบบอนในการพิมพ์
เลือก Label Sticker อย่างไรให้เหมาะสมกับการใช้งาน
สติกเกอร์ Label เป็นส่วนที่ขาดไปไม่ได้เลยของสินค้าและผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ เพราะเป็นส่วนที่ให้ข้อมูลและรายละเอียดต่าง ๆ ของสินค้าและผลิตภัณฑ์นั้น ๆ ว่าเป็นอย่างไรบ้าง ไม่ว่าจะเป็นชื่อ, สัญลักษณ์, การใช้งาน หรือวันหมดอายุ การเลือก sticker label ที่เหมาะสมจึงเป็นเรื่องสำคัญ มาดูปัจจัยที่ควรพิจารณากัน:
1. ขนาด
ปัจจัยที่หลายคนมักมองข้ามก็คือ ขนาดของ label sticker โดยก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจก่อนว่าต้องการนำสติกเกอร์ลาเบลไปใช้เพื่อจุดประสงค์อะไร รวมถึงพื้นผิวที่ต้องการติดนั้นมีขนาดเท่าไหร่ จากนั้นนำมาเปรียบเทียมความเหมาะสมว่าควรเลือกสติกเกอร์ Label ที่ขนาดเท่าไหร่ถึงจะเหมาะสม โดยไม่เล็กหรือใหญ่เทอะทะมากจนเกินไป
2. ประเภทวัสดุ
โดยทั่วไปแล้ว สติกเกอร์ลาเบลผลิตขึ้นมาจากวัสดุหลากหลายชนิดที่แตกต่างกันออกไป ไม่ว่าจะเป็น กระดาษ, PET หรือ PVC เป็นต้น ซึ่งแต่ละประเภทก็มีคุณสมบัติโดดเด่นต่างกันออกไป ซึ่งควรทำความเข้าใจถึงประเภทและเลือกประเภทของ sticker label ให้เหมาะสมกับการใช้งาน
ตัวอย่างการเลือกใช้:
- สินค้าแห้ง: สติกเกอร์กระดาษ
- สินค้าที่สัมผัสน้ำ: สติกเกอร์พีพี หรือ พีวีซี
- สินค้าพรีเมียม: สติกเกอร์ใส หรือ สติกเกอร์ฟอยล์
- สินค้าอุตสาหกรรม: สติกเกอร์โพลีเอสเตอร์
3. อายุการใช้งาน
ในส่วนอายุการใช้งานของสติกเกอร์ Label นั้นไม่ได้ขึ้นอยู่เพียงแค่ประเภทวัสดุที่ใช้เท่านั้น แต่ยังขึ้นอยู่กับวิธีการพิมพ์ด้วย ซึ่งการพิมพ์แต่ละแบบส่งผลต่ออายุการใช้งานของ sticker label โดยตรง หากต้องการนำไปใช้ชั่วคราวหรือระยะสั้น สติกเกอร์ลาเบลที่อายุการใช้งานสั้นจะเหมาะสมกว่า แต่หากต้องการใช้ยาวนาน อาจจะถึงปี ควรเลือกอายุการใช้งานที่ยาวนานตามไปด้วย
อย่างไรก็ตาม label sticker ที่อายุการใช้งานยาวนานมากเท่าไหร่ ราคาหรือต้นทุนการผลิตก็จะสูงขึ้นตามไปด้วยนั่นเอง
4. ราคา
ปัจจัยที่ไม่กล่าวถึงไม่ได้เลยก็คือ ราคา ซึ่งเรียกได้ว่า การเลือกสติกเกอร์ลาเบลหลัก ๆ แล้วขึ้นอยู่กับราคาก็ไม่ผิด เพราะ sticker label แต่ละแบบมีราคาที่แตกต่างออกไป ตามอายุการใช้งาน การพิมพ์ หรือประเภทวัสดุ เป็นต้น โดยราคาของสติกเกอร์ Label ก็จะไปรวมกับต้นทุนการผลิต
ซึ่งก่อนเลือกจากปัจจัยต่าง ๆ ควรคำนึงถึงต้นทุนสำหรับ sticker label และจำนวนที่ต้องการว่าเหมาะสมกันหรือไม่ เพื่อให้การใช้งานสติกเกอร์ลาเบลมีความเหมาะสมและมีประสิทธิภาพมากที่สุด
เทคนิคการทำสติกเกอร์ Label ให้โดดเด่น
การสร้าง brand labels ที่น่าสนใจไม่ใช่แค่เลือกวัสดุให้เหมาะสมเท่านั้น แต่ยังรวมถึงเทคนิคการทำให้สติกเกอร์มีความโดดเด่นอีกด้วย ซึ่งมีหลายเทคนิคที่นิยมใช้กัน:
1. สติกเกอร์ปั๊มนูน
เป็นเทคนิคที่เพิ่มความโดดเด่นให้กับสินค้าหรือบรรจุภัณฑ์ได้เป็นอย่างดี มีลูกเล่น เน้นดีไซน์ เหมาะสำหรับสินค้าที่ต้องการเพิ่มมิติและความน่าสัมผัส
2. สติกเกอร์ปั๊มฟอยล์ ปั๊มทอง
เป็นเทคนิคที่เพิ่มความโดดเด่นและหรูหราให้กับสินค้า ทำให้สินค้านั้นสะดุดตาและน่าสนใจมากยิ่งขึ้น เหมาะกับสินค้าประเภทอุปโภค บริโภค ช่วยเพิ่มมูลค่าและภาพลักษณ์ระดับพรีเมียมให้กับผลิตภัณฑ์
3. สติกเกอร์ Pop-Up
เป็นเทคนิคที่นำจุดขายที่ต้องการมาทำให้เด่นชัดมากยิ่งขึ้น ช่วยดึงดูดความสนใจของลูกค้าไปที่คุณสมบัติเด่นของสินค้า
4. สติกเกอร์ Security
เป็นเทคนิคที่ทำให้สินค้ามีความน่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้น เพิ่มความมั่นใจให้กับลูกค้า เหมาะสำหรับสินค้าประเภทยา หรืออุปโภค บริโภค ช่วยป้องกันการปลอมแปลงและสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภค
สติกเกอร์ลาเบลกับการสร้างแบรนด์

ในยุคที่การตลาดออนไลน์เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วและการแข่งขันในตลาดมีความเข้มข้น การสร้างแบรนด์ให้โดดเด่นและเป็นที่รู้จักในใจผู้บริโภคกลายเป็นสิ่งที่ท้าทายอย่างยิ่ง หนึ่งในเครื่องมือที่สามารถช่วยให้สินค้าของคุณเป็นที่จดจำและสร้างความเชื่อมั่นแก่ลูกค้าคือ sticker label
1. สร้างเอกลักษณ์ให้แบรนด์
การออกแบบ brand labels ที่ดีไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มความน่าสนใจให้กับสินค้า แต่ยังสามารถสื่อสารถึงคุณค่าของแบรนด์และทำให้สินค้าของคุณโดดเด่นในตลาดได้ การใช้สีสันที่เหมาะสม ฟอนต์ที่อ่านง่าย และรูปแบบการจัดวางที่สวยงาม สามารถช่วยให้สินค้าของคุณโดดเด่นและเป็นที่จดจำในทันที
2. สร้างความเชื่อมั่น
การออกแบบ sticker label ที่มีข้อมูลที่ชัดเจนและโปร่งใสสามารถสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้า โดยเฉพาะในสินค้าที่เกี่ยวข้องกับอาหารหรือเครื่องสำอาง ซึ่งการมีข้อมูลครบถ้วน เช่น วันหมดอายุ หรือส่วนผสม จะช่วยให้ผู้บริโภครู้สึกมั่นใจในการเลือกซื้อสินค้านั้น ๆ นอกจากนี้ สติกเกอร์ Label ที่ดูน่าเชื่อถือและมีความละเอียดอ่อนในการออกแบบยังช่วยเสริมสร้างภาพลักษณ์ของแบรนด์ในสายตาของลูกค้า
3. สร้างความแตกต่าง
ในบางครั้ง label sticker สามารถใช้เพื่อเพิ่มความแตกต่างและสร้างความเป็นเอกลักษณ์ให้กับสินค้าโดยเฉพาะในตลาดที่มีการแข่งขันสูง ตัวอย่างเช่น การใช้วัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม หรือสติกเกอร์ที่มีลวดลายเฉพาะตัวเพื่อสะท้อนถึงค่านิยมของแบรนด์
4. สติกเกอร์ลาเบลกับการตลาดออนไลน์
ในยุคปัจจุบัน การขายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์กลายเป็นเรื่องปกติ การใช้ภาพของ brand labels ในการโปรโมทสินค้าผ่านโซเชียลมีเดียหรือเว็บไซต์ต่าง ๆ ก็สามารถช่วยเพิ่มการมองเห็นและสร้างความสนใจให้กับผู้บริโภคได้ ตัวอย่างเช่น การโชว์รูปภาพสติกเกอร์ที่มีการออกแบบที่ดีในโซเชียลมีเดียสามารถทำให้ลูกค้าสนใจและเลือกที่จะคลิกเข้าไปดูรายละเอียดสินค้า
บริการสติกเกอร์ลาเบลคุณภาพจาก Sticker to You
ที่ Sticker to You เรามีประสบการณ์มากกว่า 10 ปี ในการเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการพิมพ์ผลิตภัณฑ์สินค้าทุกชนิด เราเข้าใจดีว่าฉลากสินค้าที่ดีต้องสะท้อนถึงคุณภาพและเอกลักษณ์ของแบรนด์คุณ บริการของเรามีดังนี้:
บริการงานพิมพ์ Label Sticker หลากหลายรูปแบบ
- งานพิมพ์สติกเกอร์สูญญากาศ
- งานพิมพ์สติกเกอร์ Pop up
- งานพิมพ์สติกเกอร์ใส พิมพ์สีขาว (พิมพ์ 5 สี)
- งานพิมพ์สติกเกอร์สีเงิน สีทอง
- งานพิมพ์สติกเกอร์กันปลอม
- งานพิมพ์ Tag ไดกัทสินค้า
บริการเพิ่มเติม
นอกจากงานพิมพ์ฉลากสินค้าแล้ว เรายังรองรับทุกความต้องการด้านงานพิมพ์ ไม่ว่าจะเป็น:
- กล่องบรรจุภัณฑ์
- บัตรกำนัล (Voucher)
- โบรชัวร์ประชาสัมพันธ์แบบต่างๆ
เรามีทีมออกแบบมืออาชีพที่พร้อมให้คำปรึกษาและช่วยคุณออกแบบ sticker label ที่ตรงใจและเหมาะกับแบรนด์ของคุณ ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจขนาดเล็กหรือองค์กรใหญ่ เราพร้อมดูแลให้คุณได้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพตรงตามความต้องการ
สรุป
Sticker label เป็นองค์ประกอบสำคัญในการสร้างเอกลักษณ์และมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้า นอกจากจะให้ข้อมูลที่จำเป็นแล้ว ยังช่วยสร้างความน่าเชื่อถือและเป็นจุดดึงดูดความสนใจจากลูกค้า การเลือกวัสดุและรูปแบบที่เหมาะสมกับประเภทสินค้าจะช่วยให้แบรนด์ของคุณโดดเด่นในตลาดที่มีการแข่งขันสูง ที่ Sticker to You เรามุ่งมั่นให้บริการงานพิมพ์สติกเกอร์คุณภาพสูงที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการ พร้อมสร้างความประทับใจแรกให้กับลูกค้าของคุณ
คำถามที่พบบ่อย
Sticker Label มีกี่ประเภท?
Sticker Label มีหลายประเภท เช่น สติกเกอร์กระดาษ สติกเกอร์ใส สติกเกอร์พีวีซี สติกเกอร์โพลีเอสเตอร์ สติกเกอร์พีพี และสติกเกอร์ฟอยล์ แต่ละชนิดเหมาะกับการใช้งานที่แตกต่างกัน
สติกเกอร์แบบไหนเหมาะกับสินค้าที่ต้องสัมผัสน้ำ?
สินค้าที่ต้องสัมผัสน้ำควรใช้สติกเกอร์พีพี (PP) หรือพีวีซี (PVC) เพราะสามารถกันน้ำได้ 100% มีความทนทานสูง กาวยึดเกาะดี และไม่หลุดลอกง่ายแม้เปียกน้ำ
ราคาสั่งทำ Sticker Label เริ่มต้นเท่าไหร่?
ราคาขึ้นอยู่กับประเภทวัสดุ ขนาด และจำนวนที่สั่งผลิต โดยทั่วไปเริ่มต้นที่ประมาณ 35-45 บาทต่อแผ่น สำหรับการสั่งขั้นต่ำ 10 แผ่น ราคาจะถูกลงหากสั่งจำนวนมาก
การออกแบบ Sticker Label ให้โดดเด่นควรทำอย่างไร?
ควรเลือกสีที่สะดุดตา ใช้ฟอนต์ที่อ่านง่าย ข้อมูลครบถ้วนแต่ไม่รกตา และพิจารณาเทคนิคพิเศษเช่น ปั๊มนูน ปั๊มฟอยล์ หรือ Pop-up เพื่อเพิ่มความน่าสนใจให้กับสินค้า ควรออกแบบให้สอดคล้องกับเอกลักษณ์แบรนด์