มาทำความรู้จักกับ “สติกเกอร์ติดสินค้า” กันให้มากขึ้น เชื่อว่าหลายคนที่กำลังเริ่มต้นธุรกิจหรือมีธุรกิจอยู่แล้ว คงเคยสงสัยว่าควรเลือกสติกเกอร์แบบไหนดี หรือจะหาร้านพิมพ์สติกเกอร์ที่ไหนดี ถ้าอยากให้ลูกค้าจดจำแบรนด์ได้ หรืออยากให้สินค้าดูน่าเชื่อถือ บทความนี้มีคำตอบให้!
สติกเกอร์ติดสินค้า คืออะไร?

สติกเกอร์ติดสินค้า คือ แผ่นป้ายที่มีกาวด้านหลังสำหรับติดบนผลิตภัณฑ์หรือบรรจุภัณฑ์ เพื่อบอกข้อมูลของสินค้าให้ผู้บริโภครู้ว่าเราคือใคร สินค้าคืออะไร ใช้อย่างไร มีส่วนประกอบอะไรบ้าง หรือมีวันหมดอายุเมื่อไร
คุณเคยซื้อขนมในตลาดแล้วชอบมากแต่ไม่รู้ว่าร้านชื่ออะไรมั้ย? นี่คือสาเหตุที่ทำให้ธุรกิจต้องมีสติกเกอร์ฉลากสินค้า เพราะนอกจากจะบอกข้อมูลแล้ว ยังเป็นการโฆษณาทั้งตัวผลิตภัณฑ์และโลโก้ให้ดูน่าสนใจ ช่วยเพิ่มยอดขาย และทำให้ลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำได้อีกด้วย
ทำไมต้องรู้เรื่องสติกเกอร์ก่อนไปร้านพิมพ์สติกเกอร์?
การเลือกสติกเกอร์ให้เหมาะกับสินค้าเป็นเรื่องสำคัญมาก เพราะ:
- ช่วยให้คุณเลือกสติกเกอร์ที่เข้ากับบรรจุภัณฑ์ได้อย่างลงตัว
- ประหยัดเงินจากการใช้สติกเกอร์ที่เหมาะสมกับประเภทสินค้า
- ลดเวลาและค่าใช้จ่ายเพราะสามารถสั่งพิมพ์สติกเกอร์ได้รวดเร็วและลดความผิดพลาด
ประเภทของสติกเกอร์ฉลากสินค้า
สติกเกอร์ติดสินค้าแบ่งเป็น 2 ประเภทหลัก ๆ ดังนี้:
1. สติกเกอร์เนื้อกระดาษ
สติกเกอร์กระดาษเป็นที่นิยมมากเพราะราคาถูกกว่าประเภทอื่น เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นธุรกิจที่อยากประหยัดต้นทุนในการผลิตสติกเกอร์ มีทั้งแบบขาวด้านและขาวมัน
สติกเกอร์กระดาษขาวด้าน: เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความเรียบหรู ดูดีมากกว่าราคา แต่มีข้อเสียคือกันน้ำได้เพียง 40% เท่านั้น ไม่เหมาะกับสินค้าที่ต้องสัมผัสความชื้นหรือเปียกน้ำ
สติกเกอร์กระดาษขาวมัน: คล้ายกับแบบขาวด้าน แต่มีความมันเงา ทำให้สติกเกอร์ฉลากแบบม้วนมีความแวววาว ช่วยสร้างความโดดเด่นให้แบรนด์ ทำให้ลูกค้าจดจำได้ง่าย แต่ป้องกันน้ำได้เพียงเล็กน้อย
สติกเกอร์กระดาษ + เคลือบเงา/เคลือบด้าน: สามารถกันรอยและกันน้ำได้ถึง 70% เพราะมีการเคลือบผิวหน้า เพิ่มความหรูหราให้กับงานพิมพ์ เหมาะสำหรับลูกค้าที่ต้องการงานปริ้นสติกเกอร์ราคาประหยัดแต่ได้คุณภาพระดับพรีเมียม
สติกเกอร์กระดาษคราฟท์น้ำตาล: สร้างความแตกต่างให้กับสินค้า ทำให้งานพิมพ์ดูคลาสสิค เหมาะกับสินค้าที่ต้องการความหนาและแข็งแรง เช่น ของตกแต่งบ้านหรือของขวัญ
2. สติกเกอร์เนื้อพลาสติก
สติกเกอร์เนื้อพลาสติกมีความเหนียว ฉีกขาดยาก และกันน้ำได้ 100% ทำให้การรับพิมพ์สติกเกอร์ประเภทนี้เป็นที่นิยมสำหรับสินค้าที่ต้องสัมผัสกับน้ำ มีหลายชนิด เช่น PVC, PP, PE แต่ที่นิยมใช้มี 2 แบบหลัก ๆ คือ:
สติกเกอร์พีพี (PP)
เป็นสติกเกอร์ที่มีความเรียบเนียนและสวยงามกว่าสติกเกอร์ทั่วไป คุณภาพสีที่พิมพ์มีประสิทธิภาพสูง ให้ความคมชัดถึง 2400×4800 dpi งานพิมพ์จึงคมชัดเป็นพิเศษ เนื้อสติกเกอร์เรียบเนียนแนบไปกับพื้นผิวสินค้า ทำให้ลูกค้าสัมผัสได้ถึงความพรีเมียม
สติกเกอร์พีพีแบ่งเป็น 3 ประเภท:
- สติกเกอร์พีพีแบบใส: นิยมใช้กับฉลากที่ต้องการเน้นพื้นผิวของบรรจุภัณฑ์ มองเห็นสินค้าภายในได้ เน้นความสวยงาม โชว์สินค้า
- สติกเกอร์พีพีแบบขาวมุก (ขาวเงา): นิยมใช้กับบรรจุภัณฑ์ประเภทเครื่องสำอาง ให้ความสวยงาม มันวาว
- สติกเกอร์พีพีแบบขาวด้าน: เหมาะกับสินค้าที่อยู่ในร่มตลอดเวลา หรืออาหารที่ต้องอยู่ในห้องเย็น พื้นผิวมีความเรียบ เช่น ขวดแก้ว เนื้อสัมผัสกึ่งเงา กึ่งด้าน
สติกเกอร์พีพีเหมาะสำหรับขวดน้ำ ขวดแชมพู ครีมนวด เครื่องสำอาง ป้าย สคบ. และผลิตภัณฑ์ที่ต้องอยู่กับความชื้นหรือแช่เย็นตลอดเวลา เพราะกันน้ำได้ดี ไม่หลุดลอกเมื่อสัมผัสน้ำ และทนความร้อนได้สูงถึง 90 องศาเซลเซียส
สติกเกอร์พีวีซี (PVC)
เป็นสติกเกอร์ที่ได้รับความนิยมรองจากสติกเกอร์พีพี กันน้ำได้ 100% มีความเหนียว ฉีกขาดยาก กาวยึดเกาะพื้นผิวได้ดี ติดแน่นทนทาน ทนความร้อนได้ประมาณ 40-60 องศาเซลเซียส เหมาะกับสินค้าที่ต้องสัมผัสทั้งความร้อน ความชื้น และน้ำ
สติกเกอร์พีวีซีแบ่งตามประเภทกาวมี 2 ประเภท:
- สติกเกอร์กาว Permanent: มีความเหนียวมาก ติดแน่น แต่เมื่อลอกออกจะทิ้งคราบกาวไว้ เหมาะกับสินค้าที่ไม่ต้องลอกสติกเกอร์ออก เช่น อาหารแช่แข็ง กระจกรถยนต์
- สติกเกอร์กาว Removable: ลอกออกได้ ไม่ทิ้งคราบกาว เหมาะกับงานโปรโมทสินค้าชั่วคราว เช่น ติดโน้ตบุ๊ก โทรศัพท์
เหมาะสำหรับงาน Outdoor สติกเกอร์ติดเครื่องดื่ม กระจกรถยนต์ แกลลอน และเครื่องใช้ไฟฟ้า แต่มีข้อเสียคือ ถ้ามีตัวหนังสือขนาดเล็กมาก อาจทำให้ความคมชัดลดลง
ปัญหาของสติกเกอร์แต่ละชนิดและวิธีแก้ไข
ปัญหาของสติกเกอร์พีพี
- สีหลุดลอกจากรอยขีดข่วน
- สีหลุดเป็นริ้วเมื่อแกะแล้วแปะใหม่
- สีอาจเปื้อนเลอะมือเมื่อโดนน้ำยาหรือตัวทำละลายบางชนิด
- ไม่เหมาะกับขวดที่มีความโค้งหรือนูน เพราะอาจเกิดรอยยับ
ปัญหาของสติกเกอร์กระดาษ
- สีหลุดลอกง่ายเมื่อมีรอยขีดข่วน
- เมื่อแกะแล้วแปะใหม่ สติกเกอร์อาจขาดติดกับขวด ทำให้บางครั้งขวดมีรอยสติกเกอร์
- ไม่เหมาะกับขวดที่มีความโค้งหรือนูน เพราะอาจเกิดรอยยับ
ปัญหาของสติกเกอร์พีวีซี
- ตัวหนังสือขนาดเล็กมากอาจมีความคมชัดน้อยกว่าสติกเกอร์พีพีหรือกระดาษที่พิมพ์จากเครื่อง Digital offset
- มีความยืดหยุ่นสูง อาจหดตัวเมื่อเก็บไว้นานในห้องที่มีอากาศร้อน
วิธีแก้ไขปัญหา
- สำหรับปัญหาสีหลุดลอก: ใช้เทคโนโลยีการเคลือบพิเศษ ซึ่งช่วยแก้ปัญหาได้ 100% และยังทำให้งานปริ้นสติกเกอร์ดูมีคุณภาพและพรีเมียมขึ้น
- สำหรับปัญหาสติกเกอร์หดตัว: เก็บสติกเกอร์ในห้องที่มีอุณหภูมิประมาณ 18-23 องศาเซลเซียส
ประโยชน์ของสติกเกอร์ฉลากสินค้า
สติกเกอร์ไม่ได้มีไว้แค่บอกข้อมูลสินค้าเท่านั้น แต่ยังมีประโยชน์มากมาย ดังนี้:
- ช่วยให้คนรู้จักสินค้า – ด้วยชื่อสินค้าและประเภทสินค้าที่ระบุไว้บนฉลาก ผู้บริโภคจะทราบว่าสินค้านี้คืออะไร ใช้อย่างไร
- ชี้แจงข้อมูลรายละเอียดของสินค้า – สติกเกอร์บอกทั้งวิธีใช้ สรรพคุณ บริษัทผู้ผลิต ปริมาณ คำแนะนำ วันผลิต วันหมดอายุ และช่องทางติดต่อ ช่วยสร้างความน่าเชื่อถือและทำให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อง่ายขึ้น
- ช่วยในเรื่องการจดจำแบรนด์ – โลโก้ ข้อความ หรือรูปภาพบนสติกเกอร์ช่วยให้ลูกค้าจดจำแบรนด์ของคุณได้ ซึ่งสำคัญมากในยุคที่มีสินค้าใหม่ๆ เกิดขึ้นมากมาย
- ช่วยให้ลูกค้าเข้าถึงสินค้าได้ง่าย – สติกเกอร์มักมีช่องทางติดต่อ เช่น เบอร์โทร Facebook Instagram หรือเว็บไซต์ ทำให้ลูกค้าสามารถสั่งซื้อล่วงหน้าได้โดยตรง
- เป็นจุดขายและสร้างเอกลักษณ์ – สติกเกอร์ช่วยสร้างความโดดเด่นและเอกลักษณ์ให้กับแบรนด์ด้วยการออกแบบที่ใช้ตัวอักษร สี หรือโลโก้ที่เป็นเอกลักษณ์
ข้อดีของสติกเกอร์ติดสินค้า

สติกเกอร์มีข้อดีมากมาย ที่ทำให้การผลิตสติกเกอร์เป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับผู้ประกอบการ:
- แปะได้กับทุกบรรจุภัณฑ์ – ไม่ว่าจะเป็นถุง กล่อง หรือบรรจุภัณฑ์ที่เปียกน้ำได้ สติกเกอร์ก็ติดได้หมด ไม่หลุดลอกง่าย ๆ
- สังเกตเห็นได้ง่าย – การออกแบบ การใช้สี และการพิมพ์ข้อความหรือรูปภาพที่น่าสนใจ ทำให้สติกเกอร์เป็นตัวดึงดูดผู้บริโภค
- ช่วยให้สินค้ามีความสวยงาม – สติกเกอร์ช่วยเพิ่มสีสันและความสวยงามให้กับบรรจุภัณฑ์ โดยเฉพาะสติกเกอร์แบบฟอยล์เงินที่ช่วยเพิ่มความหรูหราและมูลค่าให้กับสินค้า
บริการรับพิมพ์สติกเกอร์คุณภาพจาก Sticker to You
ที่ Sticker to You เรามีบริการพิมพ์สติกเกอร์คุณภาพสูงหลากหลายรูปแบบ ด้วยประสบการณ์กว่า 10 ปี เราเข้าใจดีว่าฉลากสินค้าที่ดีต้องสะท้อนถึงคุณภาพและเอกลักษณ์ของแบรนด์คุณ
บริการผลิตสติกเกอร์หลากหลายรูปแบบ
- งานพิมพ์สติกเกอร์สูญญากาศ
- งานพิมพ์สติกเกอร์ Pop up
- งานพิมพ์สติกเกอร์ใสพิมพ์สีขาว (พิมพ์ 5 สี)
- งานพิมพ์สติกเกอร์สีเงิน สีทอง
- งานพิมพ์สติกเกอร์กันปลอม
- งานพิมพ์ Tag ไดกัทสินค้า
บริการเพิ่มเติม
นอกจากงานพิมพ์ฉลากสินค้าแล้ว เรายังรองรับทุกความต้องการด้านงานพิมพ์ ไม่ว่าจะเป็น:
- กล่องบรรจุภัณฑ์
- บัตรกำนัล (Voucher)
- โบรชัวร์ประชาสัมพันธ์แบบต่าง ๆ
เรามุ่งมั่นที่จะมอบผลงานคุณภาพสูง พร้อมบริการรวดเร็วและเชื่อถือได้ ไม่ว่าคุณจะต้องการสติกเกอร์กันน้ำ สติกเกอร์กระดาษ หรือสติกเกอร์พิเศษ เราพร้อมเป็นพันธมิตรที่ไว้ใจได้ ช่วยให้สินค้าของคุณโดดเด่นในตลาด
สรุป
การติดฉลากสินค้าด้วยสติกเกอร์เป็นเครื่องมือทางการตลาดที่ช่วยสื่อสารข้อมูลสินค้า สร้างการจดจำแบรนด์ และเพิ่มมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์ การเลือกประเภทสติกเกอร์ให้เหมาะกับลักษณะสินค้าเป็นสิ่งสำคัญมาก สติกเกอร์กระดาษเหมาะกับสินค้าที่ไม่สัมผัสน้ำและมีราคาประหยัด ส่วนสติกเกอร์เนื้อพลาสติกเหมาะกับสินค้าที่ต้องการความทนทาน กันน้ำได้ดี และต้องการความสวยงามระดับพรีเมียม เลือกใช้สติกเกอร์ให้เหมาะกับสินค้าของคุณ และคุณจะเห็นความสำคัญของฉลากสินค้าอย่างชัดเจน!
คำถามที่พบบ่อย
สติกเกอร์ติดสินค้าแบบไหนกันน้ำได้ดีที่สุด?
สติกเกอร์เนื้อพลาสติกทั้งแบบ PP และ PVC กันน้ำได้ 100% โดยสติกเกอร์ PP ทนความร้อนได้สูงถึง 90 องศา ส่วน PVC ทนความร้อนได้ประมาณ 40-60 องศา เหมาะสำหรับสินค้าที่ต้องสัมผัสกับน้ำหรือความชื้น
มีสติกเกอร์ราคาประหยัดสำหรับผู้เริ่มต้นธุรกิจหรือไม่?
สติกเกอร์กระดาษเป็นตัวเลือกที่มีราคาประหยัดที่สุด เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นธุรกิจ แต่มีข้อจำกัดคือกันน้ำได้เพียง 40% เหมาะกับสินค้าที่ไม่ต้องสัมผัสน้ำหรือความชื้น เช่น กล่องขนม หรือสินค้าที่เก็บในที่แห้ง
สติกเกอร์ติดสินค้าแบบประหยัดงบประมาณควรเลือกแบบไหน?
สติกเกอร์กระดาษเป็นตัวเลือกที่ประหยัดที่สุด เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นธุรกิจ แต่มีข้อจำกัดคือกันน้ำได้เพียง 40% หากต้องการเพิ่มความทนทานสามารถเลือกแบบเคลือบเงาหรือเคลือบด้านซึ่งจะกันน้ำได้ถึง 70%
วิธีแก้ปัญหาสีหลุดลอกบนสติกเกอร์ทำอย่างไร?
ใช้เทคโนโลยีการเคลือบพิเศษเพื่อป้องกันสีหลุดลอก ที่ Sticker to You มีบริการเคลือบยูวีเงาสำหรับสติกเกอร์พีพี และเคลือบลามิเนตสำหรับสติกเกอร์อื่น ๆ ซึ่งช่วยแก้ปัญหาได้ 100% พร้อมเพิ่มความหรูหราให้กับสติกเกอร์อีกด้วย